Saturday, August 9, 2008

ก่อนที่จะไปทำงานจริงๆซะที

ช่วงที่ว่างมาพักใหญ่ๆ ก็คือประมาณเดือนกว่าๆ
ในที่สุด ก็ได้งานทำ
และคิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่จริงจังมากกว่าครั้งแรก
ที่รับเข้าไปยังไม่ถึงสองเดือนเต็ม
ก็ให้ออกซะงั้น!!

ช่วงที่ว่าง
ก็มีนู่น นี่ นั่น ให้ทำบ้าง พอมีตังเลี้ยงชีพ โดยที่ไม่ขอตังจากทางบ้านไป
ระหว่างที่ไม่ได้ทำงาน ก็ เที่ยวเล่น ประปราย
และระหว่างที่ไม่ได้เที่ยวเล่นประปราย
ก็อยู่บ้าน อยู่ที่ห้อง น้องจะทำอะไร ก็ไม่พ้น

เล่นอินเตอร์เน็ท เสิดกันเข้าไป นึกอะไรได้ก็เสิดกันเข้าไป
อ่านหนังสือ ไปรู้ว่าอันไหนดี ก็ซื้อ อันไหนชอบเองก็ซื้อ
ฟังเพลง ไปได้ฟังจากที่ไหนมาแล้วชอบก็ฟังกันไปเป็นช่วงๆ
ดูทีวี มันมีประจำบ้าน ก็ดูๆไป ไร้สาระก็ดูๆไป เอเอฟ ละคร ข่าว และอื่นๆ
ไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ

จน ได้ค้นพบข้อสงสัยบางอย่างที่เกิดขึ้นในใจ
เรารับสื่อกันได้มากมายขนาดนี้เลยเหรอ
ในวันๆนึง

ทีวี เนื้อหาในทีวี แล้วแต่ละช่อง
หนังสือพิมพ์ เนื้อหาในแต่ละช่องข่าว มีกี่หน้าก็แล้วแต่ฉบับ
อินเตอร์เน็ต นี่ตัวดี เยอะแยะวุ่นวายมาก อยากรู้ว่า ตอนนี้ทั่วโลก มันมีเว็บไซต์กันทั้งหมดกี่เว็บไซต์วะ
อยากรู้จริงๆ
เพลง อีก หนังอีก

เห้ย นี่คือแบบเพิ่งมาได้สังเกตุเห็นจริง เนื่องจากความว่างนี่แหล่ะ
แบบ มันประโคมกันเข้ามาสุดๆ
เคยวันนึงแบบว่า รับหมดเลย
ปวดหัวมาก ต้องหยุด และ นั่งอยู่เฉยๆ แบบว่า
ไม่เอาละ ไม่คิดละ จะอ๊วกและกรู

มันเยอะแบบ คนเรามันต้องการอะไรกันขนาดนี้เลยหรือนี่
แล้วพอรับเข้าไปแล้วนะ
บางทีก็ รู้สึกว่า มันก็เหมือนๆกันนะ

และอีกความรู้สึกคือ กรูย่อยไม่ทันแล้ววว

อะไรของพวกมึงกันนี่!!!!

ย่อยไม่ทันจริงๆ แบบเห้ย ความรู้อันนี้ที่ได้มา จะเอาไปทำไรดีวะ
เอาไปใช้ยังไงดีนะ เอาไปใช้ก่ะใครดีนะ
เอาไปทำเวลาไหนดีนะ
ใช้แล้วต้องยังไงต่อนะ
ต้องบอกใครต่อมั๊ย

เอ๊ะ! ยังไงนะ

หรือก็อ่านๆไป
เป็นความรู้ประดับตัวเอง
เอาไว้พูดคุยในวงสนทนา ในวงสังคม
Blah blah blah ก็ว่ากันไป

.......................................

รับรู้แล้วก็แบบว่า

คนเรานะคนเรา

เวลาเห็นคนเยอะแล้วอยากฆ่าตัวตาย

รู้สึกเป็น ส่วนเกิน ไม่อยากอยู่ให้เปลืองสสารบนโลกใบนี้เลย

แต่ก็ เป็นแค่อารมณ์ ณ ตอนนั้น ตอนที่เห็น แล้วก็ผ่านไป ที่ภาษาธรรมมะเรียกว่า ผัสสะ

ไม่รู้ว่า คริสต์ จะมีรึเปล่านะ

......................

ก็เป็นข้อสังเกตุจากที่ตัวเองว่างมานาน

นอกจากที่พูดมาก็ยังมีอีกเยอะแยะนะ

เวลาว่างเนี่ย มันช่างทำให้เราได้สังเกตุเห็นอะไนได้เยอะจริงๆเลย

^^

I like the empty!!!!

2 comments:

joesk121 said...

จริงอย่างว่า มันเยอะจริงๆ
ย่อยไม่ทันเหมือนกัน แถมยังโลภมากอีกด้วย
เห็นห่าอะไร ก็อยากได้ไปหมด ไม่สิ้นสุด
ไม่มีเวลาเอามาคิด ทบทวน

แต่ก็มีบางอย่างที่เรายอมให้มันเข้ามา
เพื่อจะให้มันออกไม่ให้เร็วที่สุดเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าจะเรียกบันเทิงหรือเปล่า
แต่เราไม่
เพราะบันเทิงที่มีสาระ กูก็ไม่ปล่อยไปเฉยๆ

ไร้สาระนะดีที่สุดแล้ว

แต่

อีกมุมมองหนึ่งที่เราไม่สามารถไปตอบพวกเค้าได้
เค้าไม่มีเหมือนเรา
การเข้าถึงไม่เหมือนเรา
เรียกว่า ด้อยกว่าทางด้านโอกาส ทุกอย่างสิ่ง
เป็นไปได้ไหมว่า เรามองทุกอย่างจากตัวเราอยู่
ตัดสินจากมุมของเรา เพียงด้านเดียว

"ความจริงมีหลายชุด"

จำได้เป่า ที่เชียงใหม่ หมาลัยเที่ยงคืน
กูว่า แม่งสุดยอดแห่งคำบรรยายเลยหว่ะ

ความจริงแม่ง อยู่กับยุคสมัย
อยู่กับคนๆนั้นจริง
เป็นปัจเจก

แม่กูเคยบอกว่า
ถ้าเราไม่ไหว้พระพุทธรูป ท่านก็ไม่อยู่กับเราหรอก

ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า
สิ่งที่เรียกว่า วิญญาณ หรือพุทธคุณ

แต่ตอนนี้
กูว่า ที่ไม่อยู่ แปลว่่า

มันไม่จริง หรือ ไม่สำคัญ หรือ ไร้สาระ สำหรับเรา
เท่านั้นเอง

youngestsister said...

อ่า
จำไ่ม่ค่อยได้เลย ที่เชียงใหม่คราวนั้น
จำได้ว่า ดีมากๆ แต่จำเนื้อหาสาระไม่ค่อยได้
555

ไร้สาระ