Tuesday, February 16, 2010

I want to write......something.

อยากเขียนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

อยากจะเรียบเรียงความคิดที่อยู่ในหัวสมอง

แล้วเขียนออกมาให้สละสลวย แบบ นักเขียนคนอื่นเค้าบ้าง

รู้สึกห่างหาย รู้สึกคิดถึง รู้สึกอยากเจอตัวเองในขณะเวลาเขียนอะไรออกมา

อยากจะหลบหน้า หลีกหนี ออกไป ให้ไกลๆ นานๆ จากสิ่งรอบตัวรอบกายรอบหัวรอบหูรอบตารอบๆ

อยากจะไปอยู่ที่เงียบๆ นั่งอยู่เงียบๆ คิดอะไรเงียบๆ

เงียบๆ อยากอยู่เงียบๆ

เงียบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อยากจะเดินเล่น เดินออกไป ไกลแสนไกล ไม่ต้องคิดอะไร เดินไปๆๆๆๆ เรื่อยๆ

ไม่อยากมองผู้คน มองหน้าใคร สบตาใคร รับรู้อะไร

เดินออกไป

ไกลๆ

แสนไกล

สักครั้ง

Wednesday, January 6, 2010

วันปีใหม่

ทุกปี ทุกเดือนมกราคม วันที่ 1

Happy new year! ของฝรั่ง

เริ่มเป็นวันที่น่าเบื่อขึ้นทุกปี ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับอายุหรือไม่ อย่างไร
แต่ที่รู้ๆ ไม่เคยมีปีไหนที่ทุกคนจะมีความสุขกันได้ทั่วหน้า

บ้างโดนกระสุนปืนจาก สวรรค์ หรือ นรก ไม่ทราบได้
แต่ต้องมีใครยิงมาแน่ๆ และฉลองบนความทุกข์ของผู้อื่น

บ้างอุบัติเหตุทางรถ ข่มขืน เมา และอีกมากมาย

ยกเลิกมันเลยดีไหมนะ !!

ทำไมเราไม่ทำให้มันเหมือนกับทุกๆวัน
ที่เราต้องใช้ชีวิตเป็นปกติ
หรือผมเองที่ไม่ปกติ วันนี้เลยเป็นวันที่ปกติ

แล้วไหนยังมีวันสงกรานต์ ปีใหม่ไทยอีก
โอ้ว... แม่เจ้า ช่างไม่แตกต่างเลย งั้นเราฉลองกันมันทุกวันไปเลย จะได้ปกติทุกวัน
มากมายมันทุกวัน

และสุดท้าย

สวัสดีปีใหม่

Monday, August 3, 2009

ความอิสระ หรือ เจตจำนงเสรี เราต่างมีกันมั๊ย


ก็ตั้งคำถามไปอย่างนั้นแหล่ะ

เพราะในใจลึกๆ ก็คิดว่ามันคงไม่มีแน่นอน

ไม่มีตั้งแต่เราเกิดมากันแล้ว

ทุกอย่างต่างก็ถูกกำหนดไว้

คิดว่าแม้กระทั่งเราตายไป

เราคิดว่ามันคงจะมีความว่างเปล่ารออยู่

ถึงแม้ว่าเรา จะกลายไปเป็นดวงดาว ล่องลอยอยู่แห่งหนใดก็ตาม

เราก็แค่เปลี่ยนสถานะไปเท่านั้น

ยังไงก็มีจักรวาลโอบล้อมเราอยู่

ทุกอย่างมีสถานะ

มีบริบท

โอบล้อมเราอยู่

หนีไปไหนไม่ได้

ความว่างเปล่ามันเป็นสถานะ หรือเปล่าวะ

ไปถามใครดี

เห้อออ

จะถามหาความอิสระทำไม

ในเมื่อมันไม่มี

Sunday, May 31, 2009

ฉันนั่งและแอบมอง

หลายเดินที่ผ่านมา สายตาของฉันมันดูวุ่นวาย
อยู่ไม่สุข ตอนนี้ตาผมเริ่มเมื่อยล้า และบาดเจ็บสาหัส

ไม่ว่าเวลาใด เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ก่อนกินข้าว
ก่อนเดินเข้าทำงาน และอีกมากมาย มันมักจะมองหา
เรียกหา สาวรูปงาม

และไม่ว่ามันจะหาเจอหรือไม่ มันไม่เคยผิดหวังเลย
เพราะมันรู้ว่ายังไงก็ต้องเจออยู่ดี ร้อยคน ต้องมีบ้างที่เข้าตา

เมื่อก่อนเราแอบมอง
เดี๋ยวนี้ เรามองแบบแบบไม่วางสายตา
เดี๋ยวนี้ของเดี๋ยวนี้ เรามองแบบจงใจให้เขารู้

เพื่ออะไรว่ะ!
ความงามอาจทำให้เราไม่อาจลดละสายตาได้ถึงขนาดนั้นเลยหรือ
หรือเป็นเพียงแค่ มองไปเผื่อดวงดี เขาจะเข้ามาขอเบอร์เราเอง

ผู้ชายก็เป็นอย่างนี้ โดยเนื้อแท้ไม่มีความกล้ามากพอ
แต่ที่กระทำไปก่อน ต้องเริ่มก่อน มันเป็นเพียงค่านิยม
ของรุ่นโค ตะ ระ พ่อแม่ปู่ย่าตายาย
เป็นภาระที่ต้องแบกอยู่ร่ำไป ผู้ชายไม่ต้องแสดงท่าทีสงวนตัว
บ้างหรือไง และทำไม!

วันนี้ก็อีกเช่นกัน
ผมเจอคนหนึ่ง น่ารักมาก
และผมแอบมอง เผื่อฟลุค เธออาจจะเข้ามาทักทาย
และเริ่มมีปฏิสัมพันธ์ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

Monday, May 4, 2009

กลับมาหัวโลดแล่นอีกครั้ง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 03 May 2009

เราได้ไปฟังบรรยายของ international forum ของ ASA
see also:
http://www.asainternationalforum.net/

ได้ฟังบรรยายช่วงเช้าของ Nigel Austin
น่าเบื่อดี เพราะเป็นเรื่องค่อนข้างวิชาการ
แต่ก็ดีมากๆ
ช่วงบ่าย 2 คน คือ
Bjarke Ingels กับ Sou Fujimoto
งานน่าสนใจมาก
ทั้งหมด ไม่ขอลงลายละเอียด

ถามว่าได้อะไรบ้าง ?
- เราฟังคนบรรยายรู้เรื่องโดยไม่ต้องใช้หูฟังแปลภาษา
รูั้สึกดีมากๆ เออ ตัวเราเองได้พัฒนามากขึ้น
- จุดไปในตัวเอง
หลังจากหายไปนาน ไม่ได้ออกแบบ นั่งแต่ทำแบบอย่างเดียว
เริ่มมีประกายให้เราได้คิด ริ เริ่ม อะไรที่เป็นของเราเอง
ไม่มีใครเอาไปจากเราได้
- เจอคนมากมาย
เราชอบเจอคน คุย พบป่ะ ดีมากๆเลย รู้สึกว่า
เราได้เป็นส่วนหนึ่งของวงการ ทำให้รู้ว่า มันแคบมากวงการของเรา

พอแล้วมั้งแค่นี้

ปล.
อยากชวน Sou Fujimoto เข้ามาร่วมวง EmptyGroup ด้วยจัง
ในงานของเขา Empty มาความหลากหลาย มากมาย สวยงาม

Thursday, March 12, 2009

ปีศาจไร้ชื่อ

เรื่องคัดย่อจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง Monster

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีปีศาจไม่มีชื่ออยู่ตนหนึ่ง
ปีศาจอยากมีชื่อมากจนทนไม่ไหว ดังนั้นจึงตัดสินใจออกเดินท่างค้นหาชื่อ
แต่ว่าโลกช่างกว้างใหญ่ ปีศาจจึงแยกร่างออกเป็นสองร่างและออกเดินทาง
ตนหนึ่งไปทางตะวันออก อีกตนหนึ่งไปทางตะวันตก
ปีศาจที่ไปทางตะวันออกพบหมู่บ้าน
"ลุงช่างตีเหล็กขอชื่อของลุงให้ฉันเถอะ"
"ชื่อเป็นของที่ให้กันได้ที่ไหน"ลุงบอก
"ถ้าลุงให้ชื่อฉัน ฉันจะเข้าไปอยู่ในตัวลุง เพิ่มกำลังให้เพื่อเป็นการตอบแทน"
"จริงรึเปล่า ถ้ากำลังเพิ่มได้ ฉันจะยกชื่อให้แก" แล้วปีศาจก็เข้าไปอยู่ในตัวช่างตีเหล็ก
ปีศาจกลายเป็นออตโต้ช่างตีเหล็กไปแล้ว
ออตโต้มีพลังมากที่สุดในหมู่บ้าน แต่อยู่มาวันหนึ่ง
"ดูฉันสิ ดูฉันสิ ปีศาจในตัวฉันเติบโตขึ้นมาขนาดนี้แล้วนะเห็นมั้ย" "กร้วม กร้วม แจบ แจบ เอื้อก"
ปีศาจที่หิวโหยกินออตโต้จากข้างในจนหมด และได้กลับเป็นปีศาจที่ไม่มีชื่ออีกครั้ง
แม้จะเข้าไปอยู่ในตัวฮันส์ช่างรองเท้า "กร้วม กร้วม แจบ แจบ เอื้อก"
แม้จะเข้าไปอยู่ในตัวโทมัสนายพราน "กร้วม กร้วม แจบ แจบ เอื้อก"
ก็ต้องกลับกลายเป็นปีศาจไม่มีชื่อตามเดิม

ปีศาจได้ไปค้นหาชื่อเพราะๆในปราสาท "ถ้ายกชื่อให้ฉัน ฉันจะช่วยให้เจ้าชายแข็งแรง"
"ถ้าช่วยให้หายป่วยแข็งแรงได้ฉันจะยกชื่อให้" เจ้าชายน้อยบอก
แล้วปีศาจก็เข้าไปยู่ในตัวของเด็กผู้ชาย
เจ้าชายหายป่วยแข็งแรงดี พระราชาดีใจมาก
"เจ้าชายหายป่วยแล้ว เจ้าชายหายป่วยแล้ว"
ปีศาจถูกใจชื่อของเด็กผู้ชาย ดังนั้นแม้ว่าจะหิวก็อดทน
อดทนทั้งๆที่ท้องร้องหิวทุกวี่ทุกวัน แต่เพราะว่าท้องมันหิวขนาดหนัก
"ดูฉันสิ ดูฉันสิ ปีศาจในตัวฉันเติบโตขึ้นมาขนาดนี้แล้วนะเห็นมั้ย"
เด็กชายจึงจับพระราชาและข้าราชบริพารกินเรียบ
"กร้วม กร้วม แจบ แจบ เอื้อก"

อยู่มาวันหนึ่ง เด็กชายได้พบปีศาจที่ไปทางตะวันตก
"ฉันมีชื่อแล้วรู้มั้ย ชื่อเพราะซะด้วย" เด็กชายบอก
ปีศาจที่ไปทางตะวันตกพูดว่า
"ชื่อรึ ไม่จำเป็นหรอก ไม่มีชื่อก็มีความสุขได้" "เพราะว่าพวกเราคือปีศาจไร้ชื่อ"
เด็กผู้ชายจึงกินปีศาจที่ไปทางตะวันตกเข้าไปเลย
ปีศาจมีชื่อแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่มีใครเหลืออยู่ให้เรียกชื่อสักคน
ทั้งๆที่ชื่อว่า "โยฮัน" เป็นชื่อที่เพราะออกจะตาย